สัญญาณที่บอกว่า “คุณพร้อมซื้อบ้าน” แล้ว

เงินดาวน์ (Down Payment) คือ จำนวนเงินที่ผู้ซื้อจ่ายก่อนการโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้การวางเงินดาวน์อยู่ระหว่าง 5 – 20% ของราคาซื้อขาย ขึ้นอยู่กับประเภทอสังหา เงินดาวน์อาจจ่ายเป็นเงินก้อน หรือผ่อนส่งเป็นงวดๆ ก็ได้

 ซึ่งถ้าคุณมีเงินเก็บที่สามารถจ่ายเงินดาวน์ได้ ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการเข้าสู่การซื้อบ้าน ในขณะที่คุณอาจวางเงินดาวน์ได้ 5% ก่อนโอนเป็นเจ้าของ ซึ่งหลายคนเล็งบ้านราคา 3 ล้านแล้วคิดว่า “เฮ้ย เรามีเงิน 150,000 ในธนาคารแล้ว” ก็อย่าเพิ่งรีบไปวางเงินซื้อ ลองอ่าน ทำไมเราควรวางเงินดาวน์ 20% เป็นทางเลือกด้วย อีกทั้งคุณยังต้องมีเงินสำหรับการตกแต่ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งทำให้เราไปสู่สัญญาณข้อที่ 2

2. คุณมีการงาน ที่มั่นคง 

 หากคุณทำงานมาอย่างน้อย 1-2 ปี ต่อเนื่อง และชอบงานที่ทำ โดยไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนงาน ก็เป็นโอกาสที่ดีกว่าในการยื่นขอสินเชื่อได้ การมีอาชีพและงานที่มั่นคง ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณมีรายได้ต่อเนื่องในการซื้อบ้าน 

3. คุณสามารถซื้อบ้าน ซื้อคอนโดได้จริงๆ 

 รายได้ต่อเดือนของคุณ เมื่อหักกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนรวมทั้งภาระหนี้อื่นๆ มีจำนวนเงินเหลือที่เพียงพอในการชำระเงินเพื่อจ่ายสินเชื่อในการซื้อบ้านหรือคอนโดที่คุณต้องการแน่ๆ อีกทั้ง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมากับการเป็นเจ้าของอสังหา โดยเฉพาะบ้านในโครงการ ที่ต้องมีการจ่ายค่าส่วนกลาง ค่ากองทุน ค่าประกันภัย อย่างต่อเนื่อง

4. คุณมีเครดิตที่ดี 

 ถ้าคุณถือบัตรเครดิต หรือมีหนี้รถยนต์ แล้วมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี จ่ายตรง จ่ายครบ ทุกงวด ก็หมายความว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี รวมทั้งแสดงถึงวินัยทางการเงินที่ดีของคุณอีกด้วย แบบนี้ก็หมายความว่าคุณมีความรับผิดชอบในการชำระหนี้ที่ดี ทำให้ง่ายต่อการขอสินเชื่อซื้อบ้าน และพร้อมที่จะซื้อบ้านได้  

5. คุณตั้งใจจะลงหลักปักฐาน 

 การซื้อบ้านคุ้มกว่าการเช่าบ้าน ก็ต่อเมื่อคุณไม่มีแผนจะย้ายในระยะยาว ถ้าคุณเพิ่งย้ายมาอยู่ในพื้นที่ และยังไม่แน่ใจว่าคุณชอบละแวกนี้หรือเปล่า หรือคุณมีแผนที่จะย้ายในอีก 3 ปี นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณยังไม่พร้อมจะลงหลักปักฐาน แต่ถ้าคุณตั้งใจวางแผนอนาคต มีครอบครัว ส่งลูกเรียนยาวๆ ก็เป็นอีกสัญญาณว่า คุณพร้อมซื้ออสังหาฯ บริเวณนี้  6. คุณมีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการทะนุบำรุง ซ่อมแซม  นอกจากราคาของบ้าน หรือ คอนโด ที่คุณจะซื้อแล้วนั้น คุณยังควรเตรียมเงินสำหรับการตกแต่ง ทะนุบำรุง ซ่อมแซม เมื่อเป็นเจ้าของอสังหาอีกด้วย เพราะถ้าคุณเป็นผู้เช่า ค่าใช้จ่ายการซ่อมแซมใหญ่ๆ ก็มีผู้ให้เช่าเป็นคนจัดการ แต่เมื่อเป็นเจ้าของอสังหาเองแล้ว คุณก็ควรมีเงินเหลือเผื่อสำหรับการซ่อมแซมภายในบ้าน หรือคอนโด ด้วย