ทุกวันนี้การลงทุนเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น และหลาย ๆ คนก็ได้มองการซื้อบ้านเพื่อลงทุนเป็นหนึ่งในตัวเลือกการทำเงินในฝัน แต่พอจะเริ่มลงทุนกันจริง ๆ ก็อาจจะจับต้นชนปลายกันไม่ถูก ดังนั้นเราก็ต้องมาประเมินตัวเองกันก่อนว่าเรามีเงินทุนพอที่จะลงเล่นในสนามนี้ระดับไหนกัน
Check List ประเมินตัวเองก่อนลงทุนสังหาริมทรัพย์
เช็คความพร้อมทางด้านการเงินของเรา
แนะนำให้มีเงินเย็นสำรองไว้ไม่น้อยกว่า 40% ของราคาบ้านที่เราจะซื้อ เพราะอีก 60% จะเป็นเงินที่เราต้องกู้จากธนาคารมาเพื่อลงทุนในอสังหาฯ ชิ้นนี้ของเรา ส่วนเหตุผลที่เราควรขอกู้จากทางธนาคารไม่ให้เกิน 60% นั่นก็เป็นเพราะว่า ตัวเลขนี้คือสัดส่วนที่มีโอกาสทำกำไร ได้มากกว่าขาดทุนนั่นเอง
เช็คความต้องการของตลาด
- ทำเล ยังเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจนี้ แม้ว่าโลกออนไลน์นั้นได้เข้ามาทำหน้าที่เปลี่ยนชีวิตผู้คนให้กลายเป็นแบบไร้ขอบเขตไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงผู้คนยังต้องเดินทางไปมาระหว่างบ้าน โรงเรียน ตลาด ฯลฯ อยู่ ดังนั้นทำเลดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
- ผู้เช่า วิเคราะห์กลุ่มผู้เช่าบ้านของเราให้ออกว่าเขามีนิสัย/พฤติกรรมเป็นอย่างไร เพื่อเป็นการทำความเข้าใจตลาดและเห็นภาพได้ชัดมากขึ้น
- โครงการ/ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ไม่อยากให้มองข้าม เพราะยิ่งเราเลือกลงทุนซื้อบ้านกับโครงการที่มีชื่อเสียง การปล่อยเช่าก็จะทำได้ง่ายมากขึ้น
ต่อมาก็ต้องมาเลือกว่า ในสถานการณ์ตอนนี้ ทั้งการเงินของเรา และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน เอื้อต่อการลงทุนบ้านแบบระยะสั้น หรือ ระยะยาว
การลงทุนบ้านระยะสั้น
เป็นการลงทุนบ้านที่เน้นซื้อขายไว และกินกำไรจากส่วนต่างราคา
- ขายใบจอง เป็นการขายสิทธิ์การจองก่อนทำสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อชำระเงินจองและส่วนต่างที่ผู้ขายขอบวกเพิ่ม (ถ้ามี)
- ขายดาวน์ เป็นการขายสิทธิ์ตามสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อชำระเงินจอง เงินทำสัญญา เงินค่างวด และส่วนต่างที่ผู้ขายขอบวกเพิ่ม (ถ้ามี)
- ขายโดยถือครองน้อยกว่า 1 ปี เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของตามราคาที่ตกลงกันไว้ทั้งสองฝ่าย โดยต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามปกติ เพราะผู้ขายถือครองระยะสั้นไม่ถึงปี
อ้างอิงจาก เพลินPlearn https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/short-term-or-long-term-real-estate-investing
การลงทุนบ้านระยะยาว
เป็นการลงทุนบ้านที่เน้นเก็บกินค่าเช่า และมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
- ปล่อยเช่า เป็นการทำสัญญาเช่าตามระยะเวลาและค่าเช่าที่ตกลงกันไว้
- ขายโดยถือครองมากกว่า 1 ปี เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของตามราคาที่ตกลงกันไว้ทั้งสองฝ่าย โดยต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ต่ำกว่าปกติ หากผู้ขายมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือถือครองเกิน 5 ปี
อ้างอิงจาก เพลินPlearn https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/short-term-or-long-term-real-estate-investing
ถึงแม้การลงทุนอสังหาฯ นั้นจะไม่ได้ดูง่าย และเห็นผลได้ช้า แต่ในระยะยาวการลงทุนบ้านนี้ก็สามารถตีกลับมาเป็นกระแสเงินสดให้เราได้ตราบนานเท่านาน จนเราตัดสินใจปล่อยขายออกไป